Review :
การต่อ FiiO D5 ผ่านคอมพิวเตอร์ ออก Coaxial Out เพื่อใช้งานแบบคอมโบ กับ FiiO E17 ผ่าน S/pdif
รีวิวโดย ลูกค้าที่ซื้อ FiiO D5 จากที่ร้านไปใช้งานเอง
Credit : Customer Review by : คุณjoonepiece
สวัสดีครับ ผมสมาชิกใหม่ ขอมาลองเขียนรีวิวดูบ้าง วันนี้ผมเพิ่งได้ของชิ้นใหม่มา สั่งออนไลน์ไปเมื่อ สามวันที่แล้วกับร้านของคุณ Holysai (ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนไปเป็น Fiio.in.th แล้วนะครับ) ส่งแบบ EMS ถือว่ารวดเร็วทันใจดีเหมือนกัน (ต้องขออภัย รูปปลากรอบนี้ไปดูดมาจากเว็บ fiio.in.th อีกทีนะครับ) พอเปิดพัสดุมาปุ๊ป ผมก็จะเจอกับกล่องอลูมิเนียมสีเงินสวยงาม มีกระดาษขาดขาวแดงเรียนว่า Fiio USB Decoder D5 อยู่ พร้อมกับใบรับประกันเป็นบัตรสีฟ้าอ่อนนะครับ ผมไม่รอช้า รีบกระชากกล่องอย่างเบามือ เปิดกล่องมาจะเจอเจ้า D5 พระเอกของเรานอนอยู่ใต้กระดาษคู่มือสองภาษา ทันทีละครับ ข้างๆกันในกล่องจะมีสาย USB แถม ซึ่งทางคุณ Holysai เคลมว่า สายที่แกขายแยกคุณภาพดีกว่า ผมก็เลยจัดมาต่างหากอีกเส้นนึง
สัมผัสแรกที่แงะเจ้านี้ออกมาจากกล่องนี้ถือว่าดีละครับ เพราะว่าวัสดุที่ทำมา เป็นอลูมิเนียมทั้งอัน โดยด้านบนล่างจะเป็นอลูมิเนียมดำด้านเรียบๆ ส่วนด้านข้างซ้ายขวาจะมีการทำเป็นริ้วๆ ซึ่งเป็นชิ้นเดียวกัน ส่วนด้านหน้าหลังจะประกบแยกด้วยอลูมิเนียมดำด้านทำลายขนแมว น้ำหนักเบา ขนาดเล็กกว่าฝ่ามือ ปุ่มทุกอย่างก็ดูแข็งแรงดีละครับ พอเราลองผลิกเล่นดูก่อน จะพบว่าเจ้า D5 นี้มันมีความเจ๋งอย่างนึงคือ มันมี port mic 2 port ละครับ ข้างๆ port mic ทั้ง 2 นี้ก็จะมีช่องหูฟัง ขนาดทั้ง 3 รูนี้เป็น 3.5mm ครับ พอผลิกมาด้านบน ก็จะเห็น ปุ่ม 4 ปุ่ม กับไฟ LED บอกสถานะ 2 อัน โดยมันจะมีปุ่ม +-volumeและ mute หูฟังได้เลย ซึ่ง 2 function นี้จะสั่งงานตรงที่ Driver เลยละครับ ส่วน mute mic นี้ผมคาดว่าเป็นการ mute ที่ตัว Dac เอง ทีนี้ผลิกมาอีกทีนึงจะพบกับ USB in เป็นแบบ mini USB ละครับ ถัดมาจะเป็น Coax out และ Lineout ครับ ทีนี้ด้านใต้ของ D5 จะเขียนว่า FiiO USB Drcoder D5 มีชื่อเว็บและ Made in China บอกบ้านเกิดละจ้า
ไม่รอช้าครับ ผมรีบเสียบเจ้า D5 เข้า Notebook Samsung คู่ใจผมทันที
ใช้เวลาเพียง 3 วินาที ก็พร้อมใช้งานละจ้า
จะสังเกตุได้ว่า ไฟ LED ที่เขียนว่า work มันจะติดก่อนใครเพื่อนเลย
เป็นไฟสีฟ้าสวยงามดีครับ
ทีนี้ผมก็ซนก็เลยครับ กดมันทุกปุ่มเลย ถือว่าทุก function ใช้งานได้สมบูรณ์ละจ้า
พอเช็คสภาพเสร็จแล้วผมก็ขนของมาเลยครับ
เตรียมจะฟังแล้วละทีนี้
ผมกระแทกเม้าส์ไปสองครั้งติดๆกันที่โปรแกรมคู่ใจ iTune นั่นเอง
ไม่รอช้าอีกต่อไป ผมกระแทกเม้าส์อีกครั้งไปทีเพลง skyfall ของ adele ละครับ
เอ้า ทำไมเพลงไม่มา
เหลือบไปเห็นละครับ ว่าไม่เสียบหูฟัง เอิ๊กๆ
เอาใหม่ๆ
ทีนี้ผมเสียบหูฟังก่อน ซึ่งหูฟังที่จะใช้ทดสอบในคราวนี้ก็คือ Ultrasone hifi580 จ้า
ผมจับแจ๊คขนาด 3.5mm แล้วเสียบพรวดไปที่ช่องหูฟังของ D5 เสียงดัง กึก ก็โอเคแล้ว แน่นเข้าที่
คราวนี้ผมกระแทกเม้าส์ละครับ
แต่ไม่ทันไรผมก็ต้องรีบปิดละครับ
เพราะว่าเสียง มันดังลั่นเลยหน่ะซิครับ
ผมนี้ปิดแทบไม่ทัน หูแทบแตกครับ
คราวนี้ผมลองกดลด volume ก่อน
เอาซัก 24 จาก 100 ของ window8 ครับ
เท่านี้ก็ดังเทากับ 100 ของตัว Onboard แล้วครับ
ถือว่ากำลังขับนี้เยอะพอตัวเลยครับ
คราวนี้มาลองเสียงอีกรอบ
ย่านเสียงต่ำ
ถือว่ามาเต็มขึ้นละครับ แต่ก็ไม่ได้มาแบบตูมตาม เพียงแต่ว่ามีมวลมากขึ้น รายละเอียดของเสียงย่านต่ำก็ดีขึ้นละครับ
เสียง เชนโล่ นี้ไดนามิคชัดเจน มีที่อยู่ชัดเจนขึ้นไม่ต้องตั้งใจฟังก็หาเจอละครับ
ย่านเสียงกลาง
เสียงกลางถือว่าหนาขึ้นนิดหน่อยครับ
อาจจะเพราะได้ย่านต่ำมาช่วยดึงขึ้นมา แต่ Adele ผมตัวใหญ่ขึ้นละครับ
ในช่วงที่ Adele โหนเสียงในท่อน คอรัส เสียงก็ลอยหลุดหัวไปหน่อยนึง
แต่ก็ไม่ได้ลากยาวไปถึงเชียงใหม่ละครับ
ย่านเสียงสูง
ย่านเสียงสูงนี้ไม่ค่อยต่างเจ้าตัว onboard เท่าไหร่
แต่มิตินี้ดีขึ้นนะครับ
stage
ถือว่า stage นี้กว้างขึ้นกว่า onboard แต่ไม่มากมายเท่าไหร่
แต่มิติของเสียง ความไกลใกล้นี้ดีขึ้นละครับ
ถ้าถามผมว่าเจ้า D5 นี้เหมาะกับใคร
ผมว่าเหมาะกับคนที่งบน้อย แต่อยากได้อะไรใหม่ๆ
หรือคนที่มองหาตัวขับหูฟังที่ใช้กับ PC notebook
อย่างตัวผมเอง ผมซื้อมาเพื่อเอาช่อง Coax out มาใช้คู่กับ FiiO E17
ซึ่งผมเห็นว่า เสียงเบสมันกระชับขึ้น นักร้องก็ตัวใหญ่ขึ้น พื้นหลังก็นิ่งขึ้น
ทีสำคัญคือลดความ Dark ของ E17 ไปได้นิดนึงละครับ
ขอบคุณที่ทนอ่านจนจบนะครับ