Burn in คืออะไร และ ทำไมต้องเบิรน์ก่อนใช้งาน ?
หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า "Burn in , เบิรน์หูฟัง" ตามรีวิวต่างมากมาย แต่สงสัยว่ามันคืออะไรกันน๊อ ?!?!
หรือแม้แต่หลายๆคนก็คงสงสัยว่า ทำไมหูฟังที่เราซื้อมา หรือ ลองฟังตามร้าน กลับไม่เหมือนที่เราซื้อมาเพราะอะไรกัน
นั่นเพราะว่า การ Burn In นั้นก็คือการทำให้อุปกรณ์นั้นๆไม่ว่าจะเป็น หูฟัง , มือถือ , MP3 , DAC , แอมป์ , ลำโพง ,Soundcard , เครื่องเสียง หรือแม้แต่สายต่างๆ เรียกได้ว่า อุปกรณ์อะไรก็ตามที่เกี่ยวกับเรื่องเสียงนั้น ควรเบิรน์ อิน ก่อนใช้งานทั้งสิ้น เพื่อให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุดก่อนใช้งานจริงนั่นเอง
อย่างกรณ๊ของหูฟังนั้น ไม่ว่าจะเป็น Inear , Earbud หรือ แม้แต่ Headphone เองก็มีสิ่งที่เรียกว่า ไดอะเฟรม (Diaphragm) อยู่ด้านใน ปรกติแล้วหูฟังที่ขายตามท้องตลาดนั้นจะไม่ผ่านการใช้งาน ทำให้แผ่นไดอะเฟรม ด้านในนั้นยังไม่เข้าที่ ทำให้คุณภาพเสียงต่างๆนั้นยังไม่ได้ตามสเปค หรือ มาตรฐานตามผู้ผลิตระบุไว้ครับ
หากเทียบกับรถยนต์ การ Burn in ของวงการหูฟังเราก็เหมือนกับการ Run in ของวงการรถยนต์ นั่นหละครับ
สรุปง่ายๆก็คือ หลังจากใช้งาน Burn in อุปกรณ์ต่างๆไปซักระยะ ก็จะทำให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุดของหูฟังตัวนั้นๆไป
โดยปรกติแล้ว ระยะเวลาการเบิรน์ อิน ของหูฟังแต่ละตัวจะไม่เท่ากัน แต่สำหรับหูฟังทั่วไป ระยะเวลาเพียง 100 ชั่วโมงก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
(ยกเว้นแต่หูฟังระดับสูงๆบางตัว ที่อาจจะต้องใช้เวลาการ Burn in สูงถึง 500ชม. ก็มีครับ)
ปล.มีหลายๆคนถามผมว่า แล้วจำเป็นไหม ที่จะต้อง Burn in ก่อนใช้งาน ผมตอบให้เลยว่าไม่จำเป็นครับ
เพราะจริงๆแล้วการใช้ไปเรื่อยๆ ก็ถือเป็นการ Burn in แบบนึงเช่นกัน เพียงแต่การเบินก่อนใช้งานนั้นจะได้ฟังเสียงที่ดีที่สุดเลย
ถ้าไม่อยากเสียเวลารอ ก็ใช้งานได้เลยเหมือนกันหละครับ (ฮา)
วิธี Burn in อย่างไรให้ถูกวิธี ?
บรรยายใต้ภาพเล็กน้อย อันนี้เจอบ่อยครับ ลูกค้าบางคนซื้อหูฟังประเภท Inear ไปแต่เบสออกไม่สะใจ
ให้ลองยัดจุกหูฟังให้เข้าไปลึกๆครับ ไม่ต้องกลัวครับ ใส่ให้พอดีฟิตกับหูเรา (กดให้ดังกริ้ก)ไปเลยครับ
เพราะหูฟังประเภท Inear นี่ถ้าใส่ไม่แน่นดี เบสจะไม่ค่อยออกเลยครับ หรือไม่งั้นก็ลองเปลี่ยนขนาดจุกหูฟังดูครับ :)
ว่ากันตามตรงแล้ววิธี Burn in นี่มันก็มีหลากหลายตำรา หลากหลายวิธีมากครับ อันนี้ก็เรียกกันว่าสูตรใครสูตรมันดีกว่า
บ้างก็ว่าให้เบิรน์ด้วยเพลงทั่วไป , เบิรน์ด้วยเพลงที่กูรูทั้งหลายแนะนำ ,เบิรน์ด้วยเสียงธรรชาติ , เบิรน์ด้วยเพลงเฉพาะทางเช่น Classic ,Hiphop
จริงๆแล้วสำหรับผม วิธีไหนก็ได้ครับ ตามแต่ความเชื่อ ตามแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลย ผมว่าไม่มีสูตรไหนผิด เรื่องพวกนี้ต้องอาศัยประสพการณ์ ลองผิด ลองถูก ลองความแตกต่างกันเอาเองครับ
ถึงแม้จะมีหลากหลายสูตร หลากหลายวิธี แต่ผมขอแนะนำ เรื่องการ Burn in ไว้ดังนี้ครับ
กฏเหล็ก 4 ข้อ ของการ Burn In
1.ควรใช้ไฟล์เพลงที่มีความละเอียดสูง เช่นไฟล์เพลงพวก Lossless ต่างๆ (,m4a , .flac , .wav เป็นต้น) ยิ่งได้ระดับ Lossless ยิ่งดี หรือถ้าหากไม่มีไฟล์ระดับ Lossless เลยจริงๆก็ใช้พวกระดับ MP3 ก็ได้ แต่ควร Bit Rate ไม่ต่ำกว่า320kbps นะครับ ยิ่งละเอียด ยิ่งดีครับ
LOSSLESS คืออะไร เชิญอ่านได้ที่
https://www.fiio.in.th/article/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B9%84%E0%B8%89%E0%B8%99-lossless-%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3
2.คุณภาพเครื่องเล่น สำหรับคนทั่วๆไปก็มักจะเบิรน์ผ่าน Music Player คุณภาพดี หรือ มือถือหรือใครกูรูขึ้นมากหน่อยก็ใช้พวก Recoder (เครื่องอัดเสียง) ในการเบิรน์ อันนี้บอกตรงๆว่า ยิ่งเครื่องเล่นไหนเบิรน์ได้ดีเท่าไรก็ยิ่งดีครับ อย่างตัวผมเองก็ใช้เครื่องเล่น Music Player ในการเบิรน์เป็นหลักเช่น iPod Classic , Sony Walkman เป็นต้นครับ
3.วิธีการเปิด Burn in อันนี้ก็ควรเปิดด้วยความดังในระดับที่เราฟังเป็นประจำดีที่สุด ไม่เบา และ ไม่ดังจนเกินไป
ผมเจอลูกค้าหลายคนมีความคิดที่ผิดในเรื่องการเปิดยิ่งดัง ยิ่งดี อันนี้ขอบอกเลยว่าผิดเป็นอย่างมากครับ
เพราะการเปิดดังมากเกินไปนั้นจะทำให้หูฟังทำงานหนักไปจนเสียงแตก หรือ เพี้ยนได้
สรุปก็คือควรเปิดด้วยความดังที่เราฟังปรกติ ดีที่สุดครับ
ปล.ความเห็นส่วนตัวผมแนะนำว่า เวลาเปิดหูฟังเบิรน์ ไม่ควรเปิด EQ นะครับ เปิดธรรมดาเพียวๆดีที่สุด ^^
4.ระยะเวลาที่เปิดทิ้งไว้ สำหรับหูฟังและอุปกรณ์ทั่วไป ผมก็แนะนำที่ประมาณ 100 ชั่วโมงขึ้นไปครับ สำหรับระยะเวลาที่ผมแนะนำก็คือเปิด6ชม.ติดต่อกัน และ พัก 6ชม. วนไปเรื่อยๆจนครบ100ชั่วโมง ไม่ควรเปิดถี่ๆ ติดกันเป็นระยะเวลายาวนานไปเพราะจะทำให้เกิดอาการล้าได้ครับ จริงๆแล้วก็ไม่ต้อง 6ชั่วโมงเป้ะๆก็ได้ เอาเป็นว่าควรเปิดเบิรน์ และ เผื่อเวลาไว้พักบ้างนั่นเองครับส่วนระยะเวลาเบิรน์อันนี้ก็ตามสะดวก ผมแนะนำที่ 100ชม.ขึ้นไป แต่ยิ่งมากขึ้นก็ยิ่งดีหน่ะครับ :)
วิธีที่ห้ามทำในการ Burn in เพื่อไม่ให้ได้เสียงเพี้ยน!?!?!?
มาถึงวิธีที่ผมขอห้ามเลยนะครับ "เน้นเลยนะครับว่า ห้ามทำเด็ดขาด" นะครับ
เนื่องจากวิธีนี้มีหลายๆคนไปหาโหลด หาลองโดยที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ แล้วทำให้เสียงเพี้ยนไปเลยก็มากครับ
นั่นก็คือการใช้ไฟล์ที่มีเสียงแปลกๆเช่น เสียงซ่าๆเหมือนสัญญาณวิทยุ , ไล่ระดับเสียงจากสูงไปต่ำ
เช่นไฟล์ที่มักเจอบ่อยๆชื่อว่า Burn in ที่มีลักษณะสัญญาณวี้ๆเหมือนวิทยุแทรก หรือ ไฟล์ Defragment Sweep ที่มีการไล่ระดับเสียงจากต่ำ ไล่เสียงไปสูง หรือไฟล์ที่เรียกว่า Pink Noise เป็นต้น
เนื่องจากไฟล์พวกนี้มักจะถูกออกแบบมาสำหรับ เครื่องเสียงบ้าน ลำโพงบ้าน ซึ่งมีขนาดใหญ่ ถ้าหากนำมาใช้งานกับหูฟังโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ มักจะทำให้เสียงที่ได้ออกมาเพี้ยนกว่าเดิม เพราะมีการเร่งการทำงานของหูฟังจนมากเกินไปนั่นเอง
สูตรการเบิรน์ของที่ร้านหละ ?!?!?
จริงๆแล้วความเห็นส่วนตัวของผมเวลาแนะนำลูกค้า ผมแนะนำให้ลูกค้าเอาไปเบิรน์ด้วยเพลงที่ชอบตามด้วยกฏเหล็กของการเบิรน์ 4 ข้อตามที่ผมแนะนำไป รับรองไม่ผิดหวังแน่นอนครับ :)
แต่ถ้าหากใครได้แวะลองฟังหูฟังที่ผมเบิรน์แล้วถูกใจ ผมก็ขอแนะนำสูตรของผมแทนก็แล้วกันครับ
ปล.สูตรนี้ผมไม่ได้บอกว่าดีที่สุดนะครับ แต่เป็นวิธีที่ผมใช้เบิรน์หูฟังทุกตัวในร้านของผมเองเท่านั้นนะครับ ใครถูกใจจะนำไปใช้ก็ไม่ว่ากันครับ :)
วันแรก ผมมักจะBurn inด้วยเพลงเบาๆอย่าง เพลงบรรเลงของจีน , เพลง Classic สลับกับเพลงเบาๆ ซัก 10-20 ชม.
วันที่2 ผมจะเบิรน์กับเพลงที่ผมชอบ เช่น True Color ของ Olivia Ong , Why ของ Avril Lavigne หรือ Proud of you ของ Fiona Fang คละๆกันไป วนๆไปมาๆ ซักราวๆ 10เพลง อีก ราวๆ 20 ชม.
วันที่3 ผมก็จะBurn inกับเพลงที่มีจังหวะหนักแน่น ดุดัน หนักหน่วง เช่น Linking Park เป็นต้น อีกซัก 10 ชม.
วันที่4 ผมก็จะเอาเพลงตลาดๆ หรือ เพลงที่ผมชอบฟัง มายำรวมกัน อยู่ในระยะนั้นมาเบิรน์ต่อเนื่องอีก 20ชม.
วันที่5 ผมก็จะเอาเพลงบรรเลง แบบข้อที่1 มาเปิด สลับกับ เพลงหนักๆในข้อที่ 4 จนกว่าจะครบเวลา 100 ชม. ครับ
อันนี้เป็นบทความเก่าที่ผมเคยเขียนไว้หลายปีแล้วครับ ลองอ่านเทียบประกอบด้วยก็ได้ครับ
https://www.fiio.in.th/article/%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-burn-in-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B8%9C%E0%B8%A5%E0%B8%88%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD