เกล็ดความรู้ : หูฟังมีกี่ประเภท หูฟังแต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร เคล็ดลับในการเลือกหูฟัง
1.หูฟังแบบยัดหู ( In Ear หรือ Ear Plug )
ปัจจุบันคงต้องบอกว่าหูฟังรุ่นนี้นั้นเป็นหูฟังที่เป็นนิยมแพร่หลายที่สุด มีตั้งแต่ระดับราคา 1xx บาท ไปจนถึงหลายหมื่นบาท
จุดเด่นของหูฟังประเภทยัดหู หรือ เรียกติดปากว่า หูฟังอินเอียร์ นี้ก็คือ มีความเป็นส่วนตัวสูง เนื่องจากเป็นการยัดลงไปในหู (เหมือนการเอานิ้วชี้อุดหูของเรา) ทำให้ได้รายละเอียดของเสียงที่ชัดเจนที่สุด เนื่องจากลำโพงของหูฟังจะอยู่ลึกเข้าไปในหู ทำให้สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกได้ดีที่สุด เรียกว่าเสมือนอยู่ในโลกส่วนตัวเลยก็ว่าได้
และเนื่องจากหูฟังแบบ Inear นั้นเป็นที่นิยมสูงทำให้ค่อนข้างมีการพัฒนารูปแบบหลากหลายดังต่อไปนี้
1.1 Inear แบบมาตรฐาน
ยกตัวอย่างรุ่นแบบมาตรฐาน, AKG K324P , Sennheiser CX500 , NAKAMICHI S100 , Ultimate Ears Superfi. 4
หูฟังแบบ Inear อินเอียร์แบบมาตรฐาน อันนี้มักนิยมเห็นทั่วไปตามท้องตลาด จัดได้ว่าน่าจะเป็นหูฟังประเภทที่มีมากที่สุดในท้องตลาดก็ว่าได้ ราคาทั่วไปก็มีตั้งแต่ไม่กี่สิบบาท ไปจนถึงหลักหลายๆหมื่นก็มีครับ หูฟังประเภท อินเอียร์ มาตรฐานนี้จะมีลักษณะหูฟังเป็นจุกยัดในหูส่วนปลายสายห้อยตกลงมาขนานกับหูเรา ถึงแม้ดีไซน์จะแตกต่างกันไปตามผู้ผลิต แต่โดยส่วนมากลักษณะหูฟังหลักๆก็จะเป็นไปตามนี้เป็นหลัก
จุดเด่นของหูฟังลักษณะนี้ ก็คือเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นเล่น เพราะหาซื้อได้ง่าย ราคาไม่สูง มีหลากแบบ หลากสีสัน ราคา ให้เลือก และ สวมใส่ได้ง่ายที่สุดครับ
ปล.นอกจากนี้ยังมีการแบ่งประเภทย่อยลงมาอีกเช่นสาย Y (ด้านซ้ายสั้น ด้านขวายาว เพื่อพาดผ่านคอ) เช่น Sennheiser CX300 , แบบ Earhook (มีแท่นคล้องหู) รวมไปถึงแบบ Lanyard (สายคล้องคอเหมือนบ่วงบาก์) เช่น ZAGG แต่เนื่องจากทั้ง 3แบบที่กล่าวมานั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากนัก ทำให้ปัจจุบันไม่ค่อยมีผู้ผลิตออกมาสู่ตลาดซักเท่าไร จึงขอข้ามในส่วนนี้ไป
Link ตัวอย่างหูฟังประเภท Inear แบบธรรมดา
AKG K324P
https://www.fiio.in.th/product/56/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-akg-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-k324p
Sennheiser CX500
https://www.fiio.in.th/product/55/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-sennheiser-%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99-cx500
*******************************************************************
1.2Inear แบบคล้องหู
ยกตัวอย่างรุ่นแบบคล้องหู Ultimate Ears TRIPLE FI. 10 Pro (TF10)
หูฟังอินเอียร์ประเภทนี้มักจะหูฟังที่มีระดับราคาสูงๆ ตั้งแต่ 5xxx - หลายๆหมื่น ขึ้นไป จัดเป็นหูฟังระดับกลาง - สูงเลยทีเดียวจริงๆแล้วหูฟังประเภทนี้ก็จัดเป็น Inear ประเภทนึง ที่ต้องใส่หูฟังคล้องกลับหลังหัน(ดังภาพด้านบน) เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีที่สุด สาเหตุที่ต้องทำแบบนั้นก็เนื่องจากผู้ผลิตได้วางตำแหน่ง ลักษณะการสวมใส่ ที่จะทำให้คุณภาพเสียงดีที่สุดออกมาจากการสวมใส่แบบนี้นั่นเอง โดยทั่วไปแล้วเนื่องจากหูฟังลักษณะนี้มักจะเป็นหูฟังที่มีราคาแพง ดังนั้นมักจะเป็นหูฟังระดับสูงที่มีจำนวน Driver หลากหลาย ตั้งแต่ 2-3 Driver ต่อข้าง ไปจนถึง 10-15 Driver เลยทีเดียว เนื่องจากหูฟังประเภทนี้จัดเป็นหูฟังระดับสูง ดังนั้นแล้วส่วนมากยี่ห้อที่ทำจึงมีไม่มากนักเท่า Inear ประเภทแรก ยี่ห้อที่เด่นดังในหูฟังประเภทนี้ก็ได้แก่ Ultimate Ears (รุ่นที่ดังก็ Fi5 Pro , TF10) , Shure , Westone และอีกมากมายนั่นเอง
ปล.โดยส่วนมากแล้วหูฟังประเภทนี้"ส่วนมาก" จะสามารถเปลี่ยนสายได้ครับ
Link ตัวอย่างหูฟังประเภท Inear แบบคล้องหู
Ultimate Ears TRIPLE Fi. 10 Pro (TF10)
http://holysai.com/catalog.php?idp=271
*******************************************************************
1.3Inear แบบ Custom Made
ถ้าหากหูฟังทั่วไปตามท้องตลาดทั้งแบบที่1 และ 2 ไม่สามารถตอบสนองความต้องการคุณได้อีกต่อไป เมื่อนั้นคุณต้องสั่งทำหูฟังอินเอียร์แบบคัสต้อม หรือ สั่งทำนั่นเอง โดยหูฟังประเภทนี้จัดเป็นหูฟังระดับสูงที่สุด โดยมากแล้วราคาจะอยู่ตั้งแต่ประมาณ 15xxx ไปจนถึงหลักหมื่น หรือ หลักแสนเลยทีเดียว และเนื่องจากความ Exclusive ของมันนั่นเองทำให้กลุ่มลูกค้าส่วนมากจะเป็นกลุ่มกระเป๋าหนัก กลุ่มที่รักในการฟังเพลงจริงๆ รวมไปถึงลูกค้าประเภทศิลปินนักร้อง หรือ มืออาชีพทางด้านดนตรีได้ด้วยนั่นเอง สาเหตุที่หูฟังประเภทนี้มีลักษณะยึกยือๆ ไม่สวยงามเหมือนแบบ 1 และ 2 ก็ไม่ต้องแปลกใจไปเพราะตามชื่อของมัน หูฟังตัวนี้นั้นเป็นประเภทสั่งทำ มันเกิดมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ คือคุณต้องไปหล่อหูเพื่อให้ได้หูฟังของคุณออกมา แล้วส่งไปทำตามเมืองนอกนั่นเอง วิธีใส่โดยส่วนมากแล้วมักจะเป็นแบบคล้องหูเหมือน ข้อ2 นั่นเอง
สำหรับหูฟังประเภทนี้นั้นมียี่ห้อที่รับทำค่อนข้างเฉพาะกลุ่มพอสมควร ยี่ห้อที่เป็นที่รู้จักกันดีก็อาทิเช่น JH Audio (อดีตเจ้าของ Ultimate Ears นั่นเอง)
2.หูฟังแบบเอียบัด (Earbud)
หูฟังประเภทเอียบัดนี้ถือเป็นรากฐานต้นกำเนิดของหูฟังทั่วไปเลยก็ว่าได้ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่เก่าที่สุดตั้งแต่ยุคเทปคาสเซ็ตต์ Walkman เลยก็ว่าได้ มักจะเป็นหูฟังที่แถมมากับ MP3 หรือ มือถือรุ่นต่างๆบ่อยครั้ง เนื่องจากเป็นรูปแบบที่คุ้นเคยกันดีนั่นเอง โดยรวมแล้วถือว่าหูฟังประเภทนี้จะมีจุดเด่นที่คุ้นเคยกันดี ราคาไม่สูงมากนัก (ทั่วไปก็ประมาณ 1xx ไปจนถึง 3xxx) แต่เนื่องจากปัจจุบันแล้วตลาดหูฟังส่วนใหญ่นั้นมักจะเทไปที่ Inear ทำให้ปัจจุบันหูฟังประเภท Earbud นี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันเพราะไม่เก็บเสียงภายนอกเท่าแบบ Inear นั่้นเองสำหรับในตลาดบ้านเรานั้นยี่ห้อที่คุ้นหน้า คุ้นตากันดีก็มักจะเป็น JVC (Victor) ที่ยังทำตลาดกลุ่มนี้อยู่ ในราคาไม่สูงนักนั่นเอง
ปล.พูดถึงตรงนี้แล้วขอสรุปเล็กน้อย หูฟังทั้ง 2 แบบแรกทั้ง Inear และ Earbud มักเป็นที่นิยมในการพกพาไปข้างนอกเพราะสามารถพกพาได้สะดวกนั่นเอง
Link หูฟังเอียบัด JVC Gummy
https://www.fiio.in.th/product/60/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-jvc-gummy
Link หูฟังเอียบัด Altec Lansing Earbud Classic
https://www.fiio.in.th/product/57/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87-altec-lansing-earbud-classic
3. หูฟังแบบคาดหัว (Headphone)
สำหรับหูฟังกลุ่มคาดหัว หรือ ที่เรียกว่าเฮดโฟน นั้นมักจะเป็นแบบที่มีแถบคาดที่บริเวณหัวและมีขนาดใหญ่กว่าพกพา พอสมควรแต่ด้วยความที่ Driver มาขนาดใหญ่ทำให้ได้กำลังขับสูงกว่า (ถึงต้องใช้แอมป์พกพาอย่าง FiiO) เพื่อให้ได้ขับไหวนั่้นเอง สำหรับหูฟังแบบเฮดโฟนนั้น แบ่งได้ง่ายๆเป็น 3 แบบได้แก่
3.1หูฟังแบบ Semi Headphone (เฮดโฟนพกพา - พับได้)
ถือว่าเป็นหูฟังประเภทเดียวของ Headphone ที่นิยมไปใช้งานนอกบ้านกัน จัดเป็นหูฟัง Headphone ขนาดกลาง วิธีสังเกตุก็ง่ายๆครับ ขนาดของเฮดโฟนประเภทนี้จะไม่ใหญ่มากนัก มีน้ำหนักที่ค่อนข้างเบา และ บริเวณหูฟังซ้ายขวา สามารถพับได้เพื่อสะดวกต่อการพกพานั่นเอง (สังเกตุว่าหูฟังแบบ Semi นั้นมักจะมาพร้อมกับระบบ Noise Canceling ตัดเสียงรบกวนภายนอก) เพราะต้องการนำไปใช้งานภายนอกได้ด้วยนั้่นเอง
ปล.อันนี้ความเห็นส่วนตัวของผมนะ สาเหตุที่หูฟังประเภทนี้ไม่ค่อยเป็นที่นิยม เพราะถึงแนวคิดจริงๆจะดี แต่ถ้าว่ากันตามตรงแล้วก็ยังค่อนข้างยุ่งยากในการพกพา และการจัดเก็บ แถมด้วยที่มันสามารถพับได้ทำให้มีโครงสร้างที่ค่อนข้างเปราะกว่าปรกติ ซึ่งถ้าเทียบการนำไปใช้งานภายนอกแล้ว หูฟังประเภท Inear หรือ Earbud มีความคล่องตัว และ สะดวกการใช้งานมากกว่าครับ
3.2หูฟัง Headphone แบบ Full Size (เฮดโฟนแบบฟูลไซส์)
Nakamichi DJ (หูฟังแบบ Close Type)
หูฟัง Audio Technica TAD-500 หูฟังแบบ Open
หากขนาดไม่ใช่เรื่องสำคัญ และ เน้นการใช้งานอยู่ภายในบ้าน - ที่ทำงานเป็นหลักเหมาะสำหรับการดูหนัง ฟังเพลง
แต่เพราะต้องการกำลังขับที่สูงกว่าอาจจะต้องต่อแอมป์ขยายอย่าง FiiO เพิ่ม แต่ก็ได้กำลังเสียงที่คุ้มค่า
สำหรับหูฟังประเภทนี้นั้นแบ่งย่อยๆได้อีก 2 แบบ คือ
แบบ Open (แบบเปิด จะได้เสียงที่โปร่งกว่า กว้าง และ ไกล ไม่อุดอู้ แต่เสียงสามารถเล็ดออกภายนอก)
แบบ Close (แบบปิด เสียงจะหนักแน่น ดุดันกว่า แต่เสียงไม่เล็ดออภภายนอก)
อันนี้ก็ต้องเลือกใช้งานตามความชอบ และ สถานที่ใช้ด้วยครับ ถ้าเอาแบบ Open ที่เสียงลอดออกไปใช้งานก็อาจจะรบกวนคนอื่นได้เป็นต้น :)
Link หูฟัง NAKAMICHI HD Professional DJ(หูฟังแบบปิด-Close)
https://www.fiio.in.th/product/125/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%88-nakamichi-hd-professional-dj-headphone-%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A-dj-%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81
Link หูฟัง Audio Technica ATH-TAD500(หูฟังแบบเปิด-Open)
https://www.fiio.in.th/product/130/%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99-audio-technica-ath-tad500-%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%AE%E0%B8%94%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%89-%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87
3.2หูฟัง Headphone แบบ Wireless (หูฟังไร้สาย)
ในกลุ่มหูฟังสำหรับดูหนังปัจจุบันแล้ว หูฟังประเภท Wireless จัดว่าเป็นที่นิยมเป็นวงกว้าง (สำหรับหนุ่มๆที่เกรงใจภรรยา!)
เนื่องจากปัจจุบันมีการพัฒนาไปไกลทำให้คุณภาพหูฟังไร้สายสมัยนี้ไม่ได้ด้อยไปกว่าหูฟังมีสายมานัก และส่งสัญญาณได้ไกลกว่าแต่ก่อนมาก สำหรับปัจจุบันนั้นหูฟังประเภทไร้สายนั้นมักจะมาพร้อมกับตัวส่งสัญญาณ ที่ไว้เสียบกับอุปกรณ์ต่างๆเช่นทีวี เครื่องเสียง (แท่งยาวๆในภาพด้านบน) เพื่อกระจายสัญญาณมายังหูฟังนั่้นเองครับ (ตัวหูฟังต้องใช้ถ่านด้วยนะ)
Link หูฟัง NAKAMICHI NW3000 (หูฟังไวเรส)
https://www.fiio.in.th/product/66/%E0%B8%AB%E0%B8%B9%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%99-nakamichi-nw3000
ปล.แนะนำซักเล็กน้อยว่า ถ้าจะใช้หูฟังไวเรส ควรหลีกเลี่ยงของจีนแดงราคา 3xx-5xx บาทนะครับ อันนี้ผมเคยซื้อมาลอง
อยากจะบอกว่าพวกสัญญาณรบกวนกระจายเลย ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย เก็บอีกนิด ซื้อยี่ห้อที่คุณภาพดีหน่อยดีกว่าครับ