FiiO G01 รีวิวแอมป์พกพาสำหรับกีต้าร์โดยนักดนตรีอาชีพผู้ใช้จริง !
สวัสดีครับ ผมบอย ทศพล จันทร์เรืองนะครับ เป็นนักดนตรีอาชีพนะครับ เล่นกีตาร์ครับ ได้รับมอบหมายมาให้รีวิวแอมป์กีตาร์ตัวนี้นะครับ
โดยส่วนตัวผมเองก็มีแอมป์หูฟังของ Fiio อยู่ในครอบครองตัวนึงนะครับ ก็ค่อนข้างไว้ใจกับแบรนด์นี้พอสมควรครับ
มาเริ่มกันที่แพ็กเกจก่อนเลยนะครับ
แพ็กเกจมาในกล่องใสทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้านะครับ โชว์สัดส่วนของน้อง G01 ให้เห็นกันแบบจะจะ ทุกซอกทุกมุมเลยครับ
ด้านหน้าก็จะไม่รายละเอียดอะไรมากนะครับ
ด้านหลังก็จะเป็นฟีเจอร์ต่างๆ ของเจ้าตัวนี้นะครับ เค้าบอกว่า
-มีถ่านลิเธียมโพลีเมอร์แบบชาร์จได้อยู่ด้านในเจ้าตัวนี้เลยครับ ช่วยให้เราสามารถพกเจ้า G01 ไปเล่นนอกสถานที่ได้สบายๆ เลยครับ
-มีระบบวัดแรงดันไฟ ถ้าแบตอ่อนจะมีไฟเตือนให้ครับ
-มีเสียง Overdrive ในตัว! สามารถปรับแต่ Tone และ Volume ได้ตามใจชอบครับ แต่ EQ เป็นแบบตายตัวนะครับ ปรับแต่งไม่ได้
-มีหัวแจ็คแบบพับได้ ใช้งานได้ง่ายครับ
-มีแอมป์หูฟังประสิทธิภาพสูงอยู่ในตัว! คือสามารถใช้เป็นแอมป์หูฟังได้ด้วยครับ
-มีระบบตัดเสียงอัตโนมัติเมื่อไม่มีสัญญาณออกมาจากกีตาร์ครับ
-รองรับการ input เสียงจากสื่อภายนอกอย่างเช่น mp3 CD หรืออุปกรณ์เสียงต่างๆ ได้ครับ สามารถแจมไปพร้อมๆ กับเพลงที่เราชื่นชอบได้เลย
มาลองแกะกล่องกันดูเลยครับ
พอถอดกล่องด้านล่างออกมาจะเจอสายที่แถมมาให้นะครับ
มี คู่มือมาให้ฉบับนึง สายชาร์จก็เป็นหัว USB แบบเดียวกับ Android กับโทรศัพท์ BB นะครับ แล้วก็มียางกันกระแทกมาให้เปลี่ยนสีเล่นๆ อีก 2 สีครับ
มา ลองดูกันชัดๆ ครับ ผิวเป็นอลูมิเนียมนะครับ ให้ความรู้สึกที่ดีเวลาสัมผัสครับ ปุ่มที่เห็นนั่นเอาไว้กดล็อคหัวแจ็คให้เด้งออกมาจากที่เก็บครับ
มีสาย USB มาให้ 1 เส้นนะครับ คุณภาพงานดีเลยทีเดียว
มาดูรูปเวลาเก็บกันชัดๆ ครับ
ส่วนนี่เวลากดปุ่มแล้ว
ด้านหลังนะครับ
จาก มุมนี้จะเห็นว่ามีช่องเสียบชาร์จไฟ รูหูฟัง แล้วก็สวิตช์เปิดเปิดนะครับ แล้วก็ด้านขวามีรูสำหรับสายคล้อง เผื่อใครจะเอาสายมาคล้องด้วย
อันนี้เป็นอีกด้านนะครับ มีตัวปรับแบบหมุนสามตัว มี Drive ต่อด้วย Tone แล้วก็ Volume ตามลำดับนะครับ
อีกด้านนึงเป็น Aux in เอาไว้สำหรับให้ต่อเสียงสัญญาณจากภายนอกเข้ามา แล้วสัญญาณจะมารวมกันที่หูฟังนะครับ
ต่อไปก็เป็นการลองเทสนะครับ
เริ่ม แรกผมลองเปิด Volume ก่อนนะรับ สัญญาณที่ได้ก็ค่อนข้างชัดเจนครับ แต่จะบางนิดหน่อย แอบมีเสียงจี่นิดๆ ด้วยครับ พอปรับ Tone มันก็จะเป็นการเพิ่มหรือลดย่านแหลม (Hi) ครับ ส่วน Drive นี่จะเป็นการเพิ่มย่านกลาง (Mid) และย่านต่ำ (Low) แต่จะมีผลทำให้เสียงแตกออกมาด้วยครับ
แต่จะมีปัญหาในการปรับนิดหน่อย เนื่องจากพอเราเสียบแจ็คเข้ากับกีตาร์แล้ว เราจะมองไม่เห็นตัวปรับที่อยู่ด้านใต้เลยครับ ปรับยากหน่อย แล้วตัวปรับค่อนข้างไว คือขยับนิดเดียวหมุนไปไกลเลย ตรงนี้ก็ต้องระวังนิดนึงครับ
ที่เหลือก็คงเป็นการปรับตามใจชอบแล้วครับ ว่าจะผสมเสียงออกมาแบบไหน
ผมลองกับกีตาร์ 2-3 ตัวต้องปรับนิดปรับหน่อยตามคาแรคเตอร์ของแต่ละตัวครับ
โดยส่วนตัวผมชอบที่ Vol 3 / Tone 3 / Drive 3 ครับ
เนื้อ เสียงที่ได้ค่อนข้างดีเลยครับ แต่ถ้าจะให้เทียบกันกับแอมป์ตู้ คงจะไม่ได้แบบนั้น แต่ในแง่ความสะดวกสบายนี่กินขาดเลยครับ แถมต่อกับกีตาร์โปร่งได้อีก แต่เสียงที่ได้มันจะออกแนวเอากีตาร์โปร่งไปเสียบตู้ไฟฟ้านะครับ พอแก้เขินแก้ขัดได้ครับ
ส่วนแบตตามสเปคนี่คืออยู่ได้ 10 ชั่วโมงขึ้นไปครับ แต่ผมก็ยังไม่ได้ลองเล่นต่อเนื่องนานขนาดนั้น เกรงว่ามืออาจจะทนไม่ไหวเลยไม่ได้ลองนะครับ
สรุป
คุณภาพงานผลิต 4.5/5
คุณภาพเสียง 4/5
ความสะดวกในการพกพา 5/5
ความสะดวกในการปรับแต่ง 3/5
ภาพรวม 4/5
ป.ล.การรีวิวนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ยังไงก็แนะนำให้หาโอกาสลองด้วยตัวเอง จะดีที่สุดครับ
บอย ทศพล จันทร์เรือง
08/02/56 03:32 น.