หลายๆ ท่านคงเห็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รัวๆ ของแบรนด์ Fiio เมื่อช่วงเดือนที่ผ่านมา และวันนี้สินค้าที่เราจะนำมารีวิว อาจเรียกได้ว่าเป็นเพชรยอดมงกุฏของแบรนด์ในหมวดหมู่หูฟังเลยก็ว่าได้ บางท่านอาจเคยเห็นวัตถุสีทองๆ นี้ในอีเวนต์ฉลองครบรอบวันเกิด 14 ปี Fiio กันแล้ว นั่นคือ Fiio FDX นั่นเอง เป็นอีกครั้งนะครับที่แบรนด์ Fiio ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แฟนๆ ไม่หยุดไม่หย่อน เจ้าหูฟัง Fiio FDX และ Fiio FD7 ถูกเปิดตัวพร้อมกัน โดยทั้งคู่เรียกได้ว่า เกือบจะเป็นรุ่นเดียวกันแล้ว แต่ความแตกต่างที่ทำให้ FDX พิเศษและแพงกว่า FD7 นั่นก็คือ เคลือบทอง 24K ทั้งตัวประดับด้วยเพชรเทียมข้างละ 30 เม็ดบนเฟสเพลต พร้อมสายตัวนำ 3 กษัตรย์แบบเดียวกันกับ Fiio LC-RE กล่องไม้แท้อันหรูหรา และที่สำคัญคือ ป้าย 14th anniversary badge ของรุ่นที่ระบุหมายเลข Limited Edition Number ที่มีเพียง 1,000 ตัวทั่วโลกนั่นเอง ซึ่งในไทยมีแค่ 14 ตัวเท่านั้น เรียกได้ว่า นอกจาก part ภายใน Acoustic room ที่เกี่ยวกับเสียงทั้งหมดของตัวหูฟังแล้ว FDX นั้นแตกต่างจาก FD7 โดยสิ้นเชิงเลยครับ ซึ่ง FD7 จะมีราคาที่ 19,990 บาท ส่วน FDX ที่เราจะพูดถึงกันวันนี้มีราคาอยู่ที่ 25,990 บาท ราคาอาจดูฉีกกันไปมากใช่ไหมครับ เดี๋ยวเรามาดูกันว่า ส่วนต่างถึง 6 พันบาทนั้น นอกจากสายที่แตกต่างกันแล้ว มันคุ้มค่ากับท่านแค่ไหน
Fiio FDX ใช้ 1 ไดรเวอร์ Dynamic ระดับเรือธง รุ่นนี้ใช้ Diaphragm แบบ Pure Beryllium Diaphragm ขนาดใหญ่ถึง 12 mm ซึ่งปกติที่เราเจอจะเป็นแบบเคลือบ Beryllium แต่ใน FDX จะเป็น Beryllium ล้วนๆ ทั้งแผ่น Diaphragm เลยครับ
บรรจุในบอดี้ housing ที่ทำจาก Stainless Steel ชุบด้วยทองคำแท้ 24K มี ช่องระบายอากาศด้านล่างตัวหูฟังเพื่อให้เป็นระบบเสียงแบบ Semi-Open เพื่อความเปิดโปร่งของเสียง ได้รับการรับรอง Hi-Res audio certified
ตอบสนองย่านความถี่ตั้งแต่ 10Hz ถึง 40kHz ความต้านทานหูฟังอยู่ที่ 60 Ohm ความไวอยู่ที่ 111 dB/W น้ำหนักของตัวหูฟังไม่รวมสายนั้นอยู่ที่ 11 กรัมต่อข้าง
ส่วนสายหูฟังที่ให้มานั้นเป็นสายถักผสมโลหะ 3 ชนิดนั่นคือ ทองแดง + เงิน + ทองคำ แบบเดียวกันกับรุ่น LC-RE ที่แยกขายเส้นละ 6,290 บาท แต่ความแตกต่างคือตรงที่หุ้ม connector นั้นจะเป็น Stainless steel สีทองแมทช์กันกับตัวหูฟังสวยงาม รวมถึงทั้งจุด Y Splitter สีทอง และ Chin slider สีทองเช่นกัน
รวมถึงปลอกหัวปลั๊ก modular ก็เป็นสีทองเช่นกัน และสาย stock เส้นนี้ก็สามารถที่จะถอดหัวปลั๊กเปลี่ยนได้ทั้ง 3.5mm Single-ended และ 2.5mm 4.4mm Balanced ได้เช่นกัน สามารถใช้ได้ทั้งอุปกรณ์มือถือ คอมพิวเตอร์ และ DAP/DAC/AMP อย่างสะดวกสบาย
พร้อมกับท่อ Nozzle ที่สามารถเปลี่ยนเพื่อปรับแนวเสียงได้ โดยท่อที่ใส่มากับหูฟังจะเป็นท่อ Balanced ส่วนท่อสีเขียวที่ให้มาจะเป็นเพิ่มเสียงแหลม และท่อรูแคบแบบเดียวกันกับ Fiio FD5
อุปกรณ์ภายในชุด
- จุก Balance 3 คู่ไซส์ S M L อย่างละ 1 คู่ (M คือที่ติดมากับหูฟังตอนแรก)
- จุก Spinfit CP145 3 คู่ไซส์ S M L อย่างละ 1 คู่
รีวิวงานประกอบ🔥
การเก็บงานบอดี้นั้นเนียนมือ เคลือบทองมาได้เนียนมากๆ ตัวเพชรเทียมบน Faceplate ก็ได้ถูกเก็บงานและเคลือบอีกชั้นเป็นอย่างดี ไม่หลุดหายแน่นอน ดีไซน์โดยรวมทั้งหูฟังและสายสีทองล้วนๆ ดูเข้ากันดีเป็นอย่างมาก แค่ใส่ก็ดูแพงแล้ว แต่ที่ผมชอบมากๆคือกล่องไม้เขานี่แหละ จะหรูไปไหน การสวมใส่นั้นใส่ได้สบาย บอดี้ไม่ล้นหู ไม่รู้สึกระคายหูแต่อย่างใด ด้วยดีไซน์โดยรวมทำให้สวมใส่แล้วรู้สึกว่ามันล็อคแน่น ไม่หลุดง่ายๆ การกันเสียงภายนอกถือว่าทำได้ดี ภาพรวมเสียงนั้นจะให้เวทีที่กว้าง-กว้างมากๆ ช่องไฟสวยงามมาก ด้านลึกมีการแยก Layer ดี เสียงเบสกระชับเด้งดึ๋งดังฟังสนุก ร้องอิ่มเนียนสะอาด แหลมใสเป็นประกายไม่บาดหู รายละเอียดดีมากๆ โดยแนวเสียงที่รีวิวจะใช้เป็น Nozzle แบบ Balanced วงดำที่ติดมากับตัวหูฟังเลยนะครับ
รีวิวคุณภาพเสียง🔥
ย่านต่ำ
- เบสจะเป็นเบสที่มีสปีดเร็ว กระชับ เก็บตัวไว ลงได้ลึกมากๆ impact แรง โดยรวมลูกขนาดกลางๆ ค่อนไปทางใหญ่ หัวโน๊ตมีความคม และชัด โฟกัสดีนิ่งมากๆ Texture เนื้อเบสสามารถให้รายละเอียดอย่างถูกต้อง กระเดื่องเป็นกระเดื่อง กลองทอมเป็นกลองทอม ไม่มั่ว ไม่บวมเบลอกวนย่านอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย เสียงย่านต่ำส่วนใหญ่จะถูกจัดวางตำแหน่งให้อยู่หลังหัว โดยเฉพาะย่าน Sub-bass ที่อยู่หลังหัวไปไกลมากๆ ทำให้ไม่ตีกับดนตรีย่านอื่นๆ เหมาะกับการฟังเพลงทุกแนว ตั้งแต่ละเอียดละออจริงจังพวก Jazz Blue Orchestra Classic Vocal audiophile ทำได้ดีเยี่ยม หรือจะฟังเพลง Pop Anisong Rock Metal EDM Hiphop ก็ทำได้ดีไม่ขาดตกบกพร่อง
ย่านกลาง
- เสียงร้องของ FDX นั้นเป็นเสียงร้องที่นำหน้าวงดนตรี อิ่ม สะอาด ไร้สากเสี้ยน และมีความเป็นธรรมชาติสูง ชัดถ้อยชัดคำ เสียงกีตาร์นั้นมีเนื้อหนังดี และสามารถให้เสียงที่พุ่งฟังสนุกได้ดี แต่อิมเมจเสียงกีตาร์จะไม่ใหญ่มาก แต่เสียงเครื่องสีเครื่องเป่าจะอิ่มเนียน สมูท ใสกังวาลน่าฟังมากๆ แต่ช่วงกลางแหลมประเภทเครื่องเคาะนั้น ยังให้เสียงที่คมอยู่พอสมควร นั่นเป็นเพราะ Beryllium Driver ที่น่าจะยังแข็ง ไม่เข้าที่อยู่ หากเบิร์นอินต่อไปจะทำให้ส่วนนี้ Soft ลงมาครับ แต่ไม่มี Sibilance บาดหูพวก ส ซ เลยแม้แต่น้อย
เสียงสูง
- เสียงสูงของ FDX นั้นให้เสียงที่คมชัด แต่ไม่พุ่งเสียด เสียงแหลมจะออกไปข้างๆ ไกลๆ หัวมากกว่าที่จะพุ่งใส่หน้า เสียงสูงนั้นมีความพริ้วมากๆ ใส ละเอียดเป็นประกาย ปลายเสียงทอดได้ไกล ไม่บาดหู ให้รายละเอียดดีมากๆ การถ่ายทอด Micro detail ถือว่าทำได้ดีมาก เป็นเสียงสูงที่มีความ Airy หรือความโปร่งดีมากๆ ฟังสบายก็ดี ฟังสนุกก็ได้ เป็นเสียงสูงที่ผู้รีวิวชอบที่สุดที่ Fiio เคยทำออกมาครับ
เวทีและมิติเสียง
- FDX จะให้เวทีเสียงที่ใหญ่ กว้าง และลึกโอ่อ่าอลังการดีมากๆ ชิ้นดนตรีจัดเรียงได้มีช่องไฟและตำแหน่งที่สวยงาม ถูกต้อง เป็นธรรมชาติ มิติโอบล้อมเป็นวงกลม มีหน้ามีหลัง มีสูงมีต่ำ ไม่แพ้ Fullsize บางตัว การแยก layer เสียงด้านลึกทำได้ดี ชัด ระยะแต่ละ layer ถือว่าห่างกำลังดี ไม่ห่างมากเกินไปจนเสียความเป็นธรรมชาติ เวลาเสียง subbass ที่ลึกมากๆ
การขับ
-เป็นหูฟังที่ขับไม่ยากเลย ต่อตรงมือถือก็ให้เสียงที่ดีมากแล้วแต่ถ้าเครื่องมือถือนั้นมี noise เจ้า FDX ก็ฟ้องยับเหมือนกันนะ Matching ง่าย เข้ากับต้นทางได้หลากหลาย Character และยิ่งถ้าต่อกับ DAP/DAC/AMP ที่ดีๆ ก็ยิ่งดันประสิทธิภาพไปได้ไกลมากขึ้นอีก โดยเฉพาะเรื่องรายละเอียดและไดนามิกเสียง
- เมื่อเปลี่ยนเป็น Filter เสียงแหลม (ขอบยางสีเขียว) จะให้เสียงร้องนำหน้าขึ้นมามากขึ้นเล็กน้อย กีตาร์ดูคมขึ้น โปร่งขึ้นเล็กน้อย เวทีกว้างเท่าเดิม
- เมื่อเปลี่ยนเป็น Filter รูแคบ (ขอบยางสีแดง) จะให้เสียงพุ่งนำหน้าขึ้น ฟังสนุกขึ้น เวทีกว้างและได้มิติที่โอบล้อมมากขึ้น เบสปริมาณมากขึ้น โทนโดยรวมดูอุ่น เนื้อเสียงหนาขึ้น
บทส่งท้าย ✨
สำหรับหูฟัง Fiio FDX Limited edition นั้นไม่ใช่หูฟังที่มีดีแต่หน้าตา แต่เสียงนั้นเป็นอะไรที่ผู้รีวิวกล้าพูดได้เลยว่า มันคือที่สุดแล้วของหูฟังที่ Fiio เคยทำออกมา นอกจากตัวบอดี้ชุบทองและสายที่แตกต่าง ความพรีเมียมของกล่องไม้และ Badge ที่สลักหมายเลขลำดับไว้ก็เป็นอะไรที่ดึงดูดให้เสียเงินเป็นอย่างมากสำหรับแฟนพันธุ์แท้ Fiio หรือผู้ที่ชอบความหรูหราคู่กับเสียงอันครบครันแล้วหละครับ เป็นหูฟังที่ฟังได้ทุกแนว มีความโอ่อ่าอลังการ balance ดี เสียงสะอาดและคุณภาพดีทุกย่าน ฟังได้หลากหลายแนว และย้ำอีกครั้งครับว่า Fiio FDX นั้นผลิตมาเพียง 1,000 ตัวทั่วโลกเท่านั้น ในไทยมีเพียง 14 ตัวเท่านั้นครับ หมดแล้วหมดเลย ไม่มีผลิตเพิ่ม
ดังนั้นผมจึงให้คะแนนดังนี้
เอาล่ะสำหรับการรีวิว Fiio FDX Limited edition ก็จบกันเพียงเท่านี้นะครับ นอกจากบทความแล้วยังมีคลิปรีวิวที่ทาง Holysai ได้ผลิตขึ้นมาให้ทุกท่านได้ชมด้วยนะครับ
สามารถติดตามได้ที่ Youtube Channel : https://bit.ly/3fhS9LG
Facebook Fanpage : www.fb.com/huufang